การดูแลบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนรักบ้าน โดยเฉพาะคนที่ชอบลงมือจัดการทุกอย่างเอง แค่มีเครื่องมือช่างที่เหมาะกับงานแต่ละประเภท ก็ช่วยให้การซ่อมแซมและการประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านกลายเป็น เรื่องง่าย ๆ และนี่คือ 10 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ควรมีประจำบ้าน มาทำความรู้จักพร้อมดูวิธีการเลือกซื้อกันเลย

1.แว่นตานิรภัย (Safety Glasses)

เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่เรามักจะไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่ แต่แว่นตานิรภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญมากจึงจำเป็นต้องการได้รับปกป้อง ถึงแม้ว่าเราจะใช้งานอุปกรณ์ช่างภายในบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน การดีไซน์แว่นตานิรภัยมีการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้นและราคาก็ถูกลงมาก ดังนั้นเราควรจะมีแว่นตานิรภัยสักชิ้นประจำบ้านเพื่อความปลอดภัยในขณะใช้งานอุปกรณ์ช่างต่างๆ

2.ค้อน (Hammer)

เป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญมากซึ้งมีหลายประเภทตามลักษณะการทำงาน แต่ชนิดที่ควรซื้อติดบ้านคือชนิด “ค้อนหงอน” เพราะการใช้งานภายในบ้านจะเน้นไปในทางงานไม้มากกว่า จึงควรใช้ควรประเภทนี้เพื่อให้ง่ายในการตอกและถอนตะปูจากเฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุต่างๆ

3.ไขควง (Screwdrivers)

เป็นเครื่องมือช่างที่จำเป็นมากทั้งในการประกอบเฟอร์นิเจอร์หรืองานซ่อมแซมเครื่องมือต่างๆ โดยเราควรเลือกซื้อไขควงให้ดีโดยควรเลือกไขควงที่มีส่วนยึดระหว่างด้ามกับตัวไขขวงให้เป็นวัสดุที่แข็งแรงไม่ควรเลือกซื้อ ส่วนยึดที่เป็นพลาสติกแข็งเพราะเมื่อเราไช้งานที่ต้องการใช้แรงเยอะในการไขส่วนยึดที่เป็นพลาสติกจะแตกหรือเปลี่ยนรูปทำให้การไขเกิดการรูดขึ้นระหว่างตัวด้ามและตัวไขควง ดังนั้นเราควรคำนึงถึงคุณภาพของไขควงก่อนราคาเพราะเครื่องชนิดนี้สำคัญมากในการใช้งานภายในบ้าน

4.ประแจเลื่อน (Adjustable Wrench)

สามารถปรับขนาดให้เหมาะกับขนาดของแป้นเกลียวได้ เรียกได้ว่ามีตัวเดียวก็ใช้ได้เกือบ ทุกขนาด จึงเหมาะกับการมีไว้ติดบ้านเพื่อการใช้งานต่างๆ แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องเลื่อนปรับบ่อย ๆ และขาด้านที่เลื่อนได้มักไม่แข็งแรง เท่าประแจปากตาย เวลาเลือกซื้อ ให้ลองหมุนเลื่อนขาประแจ ควร หมุนได้ง่ายและขาไม่โยกคลอน แต่ หากมีประแจปากตายครบชุดแล้ว ประแจเลื่อนก็เป็นทางเลือกที่อาจจะ มีหรือไม่มีก็ได้

5.สว่านไฟฟ้า/ไขควงไฟฟ้า (Electric or Rechargable Cordless Drill/Driver)

เป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งเพราะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่งานหนักเช่นการเจาะผนังไปจนถึงงานเบาเช่นการขันสกรูประกอบเฟอร์นิเจอร์ ด้วยความที่ไม่มีสายจะทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกในหลายหลายพื้นที่ และควรเลือกใช้ที่เป็นแบตเตอร์รี่ลิเทียม เพื่อกำลังไขสม่ำเสมอแม้แบตเตอร์รี่อ่อนก็ตาม

6.ไฟฉาย (Torch)

เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่นิยมมีติดบ้านทุกบ้านเลยก็ว่าได้ เมื่อไฟดับหรือต้องการซ่อมแซมอุปกรณ์ในพื้นที่ที่ความสว่างไม่เพียงพอ แนะนำให้เลือกใช้แบบหลอดไฟ หลอดที่ใช้ในไฟฉายทุกรุ่นของเราเป็นหลอด LED ซึ่งให้ความสว่างมากแต่ใช้กระแสไฟน้อยสุดๆ และหลอดLEDเป็นหลอดชนิดไม่มีไส้ หลอดจึงไม่สามารถขาดได้ อายุของหลอดLEDคือ 50,000ชม. ซึ่งใช้ได้หลายสิบปีเลยทีเดียวเพราะไฟฉายที่ไม่ได้เปิดต่อเนื่องกันนานๆอยู่แล้ว  

7.ไขควงวัดไฟฟ้า (Voltage tester)

เป็นเครื่องมีอีกชิ้นมีควรมีไว้แยกจากไขควงธรรมดา เพื่อใช้ในการเช็คไฟฟ้าว่ามีไฟฟ้าไหลผ่านหรือไม่ โดยควรจะใช้หลังจาการที่เราซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเช็คว่ามีไฟรั่วหรือไม่ แต่ไม่ควรใช้วัดไฟฟ้าแรงดันสูงอย่างเด็ดขาด

8.คีม (Pliers)

ใช้สำหรับงานจับ ดัด ดัด งอ โค้ง และการขึ้นรูปชิ้นส่วนของอุปกรณ์ และวัสดุที่ไม่แข็งแรงมากนัก ขาคีม ควรหุ้มด้วยฉนวนเพี่อความปลอดภัย โดยเฉพาะกับงานไฟฟ้า ควรเลือก ใช้ประเภทของคีมให้เหมาะกับงาน แนะนำให้เลือกใช้คีมชนิดปากจระเข้ เพราะสามารถใช้งานได้หลาก- หลาย ใช้จับขึ้นงานและมีฟันสำหรับ ดัดชิ้นงานในตัว

9.ตลับเมตร (Locking Tape Measure)

มีขนาดความยาว 1-5 เมตร ขนาด ที่นิยมใช้คือ 2 เมตร ในการเลือกซื้อ ควรดูตัวเลขที่แถบวัดให้มีความ ชัดเจน ขอเกี่ยวตรงปลายสาย ติดแน่นและตัวล็อกแน่นดี ส่วน ตัวตลับเมตรถ้าเป็นชนิดหุ้มด้วยยาง ก็จะจับถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดง่าย และทนทานกว่าตลับพลาสติกล้วน

10.กล่องใส่เครื่องมือ (Toolbox)

เมื่อเรามีอุปกรณ์ต่างๆเราก็ควรจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นให้เป็นระเบียบ การใช้กล่องใส่เครื่องมือจึงจำเป็นเช่นกัน เพื่อให้ง่ายต่อการหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้งานเครื่องมือช่าง อย่างเร่งด่วน และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุาการจัดเก็บเครื่องมือ โดยเฉพาะกับการเก็บเครื่องมือช่างต่างๆกับเด็กเล็ก โดยสามารถเลือกซื้อทั้งกล่องหรือกระเป๋าเครื่องมือช่างก็ได้ตามพื้นที่การจัดเก็บ